Specially Selected Coffee Beans by Akara Coffee
“Black as the devil, hot as hell, pure as an angel, sweet as love”
ชาร์ลส์ โมริซ เดอ ตัลยีรองด์ (Charles Maurice de Talleyrand)กล่าวไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่18
@ เมล็ดกาแฟคั่ว, คั่วบด อาราบิก้า 100% จากจังหวัดเชียงใหม่
@ แหล่งเมล็ดกาแฟจากตอนเหนือของประเทศ บนความสูง 900-1300เมตร จากระดับน้ำทะเล
ตั้งแต่การเก็บเชอรี่กาแฟ การผลิตสารกาแฟ จนถึงโปรไฟล์การคั่ว เพื่อให้ออกมาเป็นกาแฟคุณภาพ เยี่ยม รสนุ่มละมุน เป็นความสุขที่ลงตัวกับอัครากาแฟ
$ Roasted coffee beans, Arabica100% from Chiang Mai , Thailand
$ Source of coffee beans :North of Thailand . Located on a height of 900-1300 meters above sea level.
$ Shade-grown coffee : Quality instead of quantity. It's right for the Forest, Community and Consumer
$ Coffee Processing : Wet method , Dry method , Honey method
ตำบลเทพเสด็จ เป็นอีกหนึ่งแหล่งของสารกาแฟที่มีคุณภาพที่Akara coffee เลือกใช้ในการผลิตกาแฟคั่วคุณภาพเยี่ยม เนื่องจากกาแฟอาราบิก้า (Arabica) เป็นกาแฟที่ชอบอากาศเย็น นิยมปลูกทางภาคเหนือ เช่น เชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ น่าน แพร่ ฯลฯ รสชาติเข้ม กลมกล่อม และมีกลิ่นหอม จึงถือเป็นกาแฟคุณภาพดีที่คนส่วนมากต้องการดื่ม กาแฟที่นิยมดื่มทั่วโลกร้อยละ 70 คือ กาแฟอาราบิก้า และอาราบิก้าชั้นนำของประเทศไทย น่าจะเป็นอาราบิก้าจากตำบลเทพเสด็จ มีหลายคนการันตีให้ว่า เป็นกาแฟชั้นหนึ่งของไทย
ตำบลเทพเสด็จ ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาผีปันน้ำ ทางด้านทิศเหนือ และเทือกเขาขุนตาล ทางทิศตะวันออก เป็นพื้นที่ที่มีอาณาเขตติดต่อกับ 3 จังหวัด คือ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย และจังหวัดลำปาง อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เฉลี่ย1,050 เมตร และจุดสูงสุดของยอดดอย คือ 1,950 เมตร บนยอดดอยลังกาที่สูงเด่นเป็นสง่า อันเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอดอยสะเก็ด
เทพเสด็จ สุดยอดแห่งกาแฟอาราบิก้า
เหตุผล : เพราะ.....
ประการแรก เพราะที่เทพเสด็จนี้ อยู่สูงกว่า 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นแหล่งป่าไม้ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ไร้มลภาวะ อากาศหนาวเย็นสบายทั้งปี ย่อมส่งผลดีต่อคุณภาพกาแฟ และเป็นกาแฟอินทรีย์ตัวจริงเสียงจริง
ประการที่สอง หมู่ที่ 4 บ้านแม่ตอนหลวงนี้ ได้รับรางวัลชนะเลิศจากโครงการ GREEN & CLEAN การปลูกกาแฟเป็นแบบอินทรีย์ปลอดภัยไร้สารพิษ เพราะต้องเข้าโครงการดังกล่าวและรักษาสภาพนี้ตลอดมา
ประการที่สาม เป็นหมู่บ้านพิทักษ์ระบบนิเวศน์ต้นน้ำ หรือแหล่งต้นน้ำธรรมชาติที่ใสสะอาด น้ำที่หล่อเลี้ยงต้นกาแฟเป็นน้ำที่คุณภาพดี ต้นกาแฟย่อมมีคุณภาพดีตามไปด้วย ยืนยันได้จากมีบริษัทเอกชนที่ผลิตกาแฟสดขาย นำน้ำลงมาตรวจคุณภาพ ปรากฏว่า น้ำที่เทพเสด็จนี้เป็นน้ำที่มีคุณภาพดีมากแหล่งหนึ่งของประเทศไทย
และที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ปลูกใต้ร่มไม้ใหญ่ ได้รับแสงเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของกาแฟ ทำให้ได้กาแฟคุณภาพดี เกษตรกรส่วนมากจะปลูกกาแฟอาราบิก้าสายพันธุ์ "คาติมอร์" (CatiMor) ซึ่งค่อนข้างต้านทานโรคราสนิม (มีเกษตรกรผู้นำบางคนยังคงปลูกและรักษาสายพันธุ์ทิปปิก้าเอาไว้ เพราะเมื่อนำไปสู่การคั่วบดแล้ว สายพันธุ์ทิปปิก้าจะให้กลิ่นหอม และรสละมุนมาก)
ส่วนการผลิตสารกาแฟวิธีเปียก (wet method) ที่เกษตรกรทำกันในหมู่บ้าน โดยนำผลกาแฟสุกแดงที่เก็บจากต้น คัดแยกผลสมบูรณ์คือ ผลที่จมน้ำจากบ่อลอยกาแฟ นำผลสมบูรณ์นั้นมาปอกเปลือกด้วยเครื่องสีลอกเปลือก จะได้กาแฟกะลาสด จากนั้นนำไปแช่น้ำในถังซีเมนต์หรือถังพลาสติค แช่ในน้ำทิ้งไว้ 12-24 ชั่วโมง ใช้มือช่วยขัดเมือกออกเพื่อให้ได้กาแฟกะลาที่สะอาด สัมผัสด้วยมือแล้วรู้สึกไม่ลื่น
แล้วจึงนำไปผึ่งแดดบนกระบะให้แห้งสนิท โดยหมั่นพลิกกลับกาแฟกะลา เพื่อให้แห้งอย่างสม่ำเสมอ ปกติใช้เวลาประมาณ 7-10 วัน จึงจะแห้งสนิท ทดลองใช้มือแกะกะลาออก แล้วใช้เล็บจิกดูจะไม่เข้า หรือถ้าลองใช้ฟันกัดดู กาแฟกะลาที่ยังไม่แห้ง จะรู้สึกเหนียว เมื่อกาแฟกะลาแห้งดีแล้ว จึงนำไปสีแยกเอากะลาออกไป โดยใช้เครื่องสีเมล็ดกาแฟ ก็จะได้เป็นสารกาแฟ (Green coffee) ตามต้องการ สารกาแฟที่ผ่านเครื่องสีเอากะลาออกแล้ว จะนำมาคัดขนาดเพื่อแบ่งเกรด โดยใช้ตะแกรงร่อนขนาดรู 5.5 มิลลิเมตร เพื่อแยกสารกาแฟที่สมบูรณ์จากสารกาแฟที่แตกหัก รวมถึงสิ่งเจือปน โดยใช้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อแยกสารกาแฟที่ดี เกรด A ออกจากสารกาแฟที่ไม่สมบูรณ์ และรวบรวมไว้ขาย ซึ่งราคาจะแตกต่างตามเกรด
เนื่องจากสภาพอากาศที่ตำบลเทพเสด็จนี้ เย็นสบายตลอดทั้งปี จึงเป็นแหล่งเพาะปลูกของกาแฟชั้นดี และมีเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟมากถึง 98% ของประชากรทั้งหมดในตำบลนี้ และน่าทึ่งในธรรมชาติกับ "น้ำซับ" หรือเรียกเป็นคำเมืองว่า "น้ำฮู" บนดอยสูงเช่นนี้ แต่มีน้ำซับไหลรินตลอดปี เป็นน้ำใสที่ไหลผ่านซอกหิน เย็นฉ่ำ ใสสะอาด และเป็นแหล่งน้ำหล่อเลี้ยงต้นกาแฟทุกต้นบนดอยแห่งนี้ ให้งอกงามและมีคุณภาพดี (รวมทั้งใช้น้ำฮู นี้ ใน wet process ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้เกิดกลิ่นหอมแท้จากกาแฟอาราบิก้า ที่เย้ายวนให้ลุ่มหลงติดใจในกลิ่นและรสชาติเมื่อได้ดื่มสักถ้วย)
"กาแฟจากไร่ที่ดีของดอยสะเก็ด จะให้กาแฟคั่วที่มีบอดี้ปานกลาง มีอะซิดิตี้สูง แต่บางและคม รสขมเล็กน้อย สะอาด กลิ่นหอมคล้ายกาแฟบางตัวจากบราซิล ถือเป็นกาแฟคุณภาพดีตัวหนึ่งของไทย แต่ราคาไม่สูงนัก และสามารถพัฒนาคุณภาพให้สูงขึ้นไปได้อีก" นี่เป็นคำยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญกาแฟท่านหนึ่งกล่าวไว้
ขอบคุณข้อมูลจาก คุณสังวร สุขสามัคคี อดีตเกษตรอำเภอดอยสะเก็ด
Line ID : jeab_monsinee
ตำบลเทพเสด็จ เป็นอีกหนึ่งแหล่งของสารกาแฟที่มีคุณภาพที่Akara coffee เลือกใช้ในการผลิตกาแฟคั่วคุณภาพเยี่ยม เนื่องจากกาแฟอาราบิก้า (Arabica) เป็นกาแฟที่ชอบอากาศเย็น นิยมปลูกทางภาคเหนือ เช่น เชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ น่าน แพร่ ฯลฯ รสชาติเข้ม กลมกล่อม และมีกลิ่นหอม จึงถือเป็นกาแฟคุณภาพดีที่คนส่วนมากต้องการดื่ม กาแฟที่นิยมดื่มทั่วโลกร้อยละ 70 คือ กาแฟอาราบิก้า และอาราบิก้าชั้นนำของประเทศไทย น่าจะเป็นอาราบิก้าจากตำบลเทพเสด็จ มีหลายคนการันตีให้ว่า เป็นกาแฟชั้นหนึ่งของไทย
ตำบลเทพเสด็จ ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาผีปันน้ำ ทางด้านทิศเหนือ และเทือกเขาขุนตาล ทางทิศตะวันออก เป็นพื้นที่ที่มีอาณาเขตติดต่อกับ 3 จังหวัด คือ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย และจังหวัดลำปาง อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เฉลี่ย1,050 เมตร และจุดสูงสุดของยอดดอย คือ 1,950 เมตร บนยอดดอยลังกาที่สูงเด่นเป็นสง่า อันเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอดอยสะเก็ด
เหตุผล : เพราะ.....
ประการแรก เพราะที่เทพเสด็จนี้ อยู่สูงกว่า 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นแหล่งป่าไม้ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ไร้มลภาวะ อากาศหนาวเย็นสบายทั้งปี ย่อมส่งผลดีต่อคุณภาพกาแฟ และเป็นกาแฟอินทรีย์ตัวจริงเสียงจริง
ประการที่สอง หมู่ที่ 4 บ้านแม่ตอนหลวงนี้ ได้รับรางวัลชนะเลิศจากโครงการ GREEN & CLEAN การปลูกกาแฟเป็นแบบอินทรีย์ปลอดภัยไร้สารพิษ เพราะต้องเข้าโครงการดังกล่าวและรักษาสภาพนี้ตลอดมา
ประการที่สาม เป็นหมู่บ้านพิทักษ์ระบบนิเวศน์ต้นน้ำ หรือแหล่งต้นน้ำธรรมชาติที่ใสสะอาด น้ำที่หล่อเลี้ยงต้นกาแฟเป็นน้ำที่คุณภาพดี ต้นกาแฟย่อมมีคุณภาพดีตามไปด้วย ยืนยันได้จากมีบริษัทเอกชนที่ผลิตกาแฟสดขาย นำน้ำลงมาตรวจคุณภาพ ปรากฏว่า น้ำที่เทพเสด็จนี้เป็นน้ำที่มีคุณภาพดีมากแหล่งหนึ่งของประเทศไทย
และที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ปลูกใต้ร่มไม้ใหญ่ ได้รับแสงเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของกาแฟ ทำให้ได้กาแฟคุณภาพดี เกษตรกรส่วนมากจะปลูกกาแฟอาราบิก้าสายพันธุ์ "คาติมอร์" (CatiMor) ซึ่งค่อนข้างต้านทานโรคราสนิม (มีเกษตรกรผู้นำบางคนยังคงปลูกและรักษาสายพันธุ์ทิปปิก้าเอาไว้ เพราะเมื่อนำไปสู่การคั่วบดแล้ว สายพันธุ์ทิปปิก้าจะให้กลิ่นหอม และรสละมุนมาก)
ส่วนการผลิตสารกาแฟวิธีเปียก (wet method) ที่เกษตรกรทำกันในหมู่บ้าน โดยนำผลกาแฟสุกแดงที่เก็บจากต้น คัดแยกผลสมบูรณ์คือ ผลที่จมน้ำจากบ่อลอยกาแฟ นำผลสมบูรณ์นั้นมาปอกเปลือกด้วยเครื่องสีลอกเปลือก จะได้กาแฟกะลาสด จากนั้นนำไปแช่น้ำในถังซีเมนต์หรือถังพลาสติค แช่ในน้ำทิ้งไว้ 12-24 ชั่วโมง ใช้มือช่วยขัดเมือกออกเพื่อให้ได้กาแฟกะลาที่สะอาด สัมผัสด้วยมือแล้วรู้สึกไม่ลื่น
เนื่องจากสภาพอากาศที่ตำบลเทพเสด็จนี้ เย็นสบายตลอดทั้งปี จึงเป็นแหล่งเพาะปลูกของกาแฟชั้นดี และมีเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟมากถึง 98% ของประชากรทั้งหมดในตำบลนี้ และน่าทึ่งในธรรมชาติกับ "น้ำซับ" หรือเรียกเป็นคำเมืองว่า "น้ำฮู" บนดอยสูงเช่นนี้ แต่มีน้ำซับไหลรินตลอดปี เป็นน้ำใสที่ไหลผ่านซอกหิน เย็นฉ่ำ ใสสะอาด และเป็นแหล่งน้ำหล่อเลี้ยงต้นกาแฟทุกต้นบนดอยแห่งนี้ ให้งอกงามและมีคุณภาพดี (รวมทั้งใช้น้ำฮู นี้ ใน wet process ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้เกิดกลิ่นหอมแท้จากกาแฟอาราบิก้า ที่เย้ายวนให้ลุ่มหลงติดใจในกลิ่นและรสชาติเมื่อได้ดื่มสักถ้วย)
"กาแฟจากไร่ที่ดีของดอยสะเก็ด จะให้กาแฟคั่วที่มีบอดี้ปานกลาง มีอะซิดิตี้สูง แต่บางและคม รสขมเล็กน้อย สะอาด กลิ่นหอมคล้ายกาแฟบางตัวจากบราซิล ถือเป็นกาแฟคุณภาพดีตัวหนึ่งของไทย แต่ราคาไม่สูงนัก และสามารถพัฒนาคุณภาพให้สูงขึ้นไปได้อีก" นี่เป็นคำยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญกาแฟท่านหนึ่งกล่าวไว้
ขอบคุณข้อมูลจาก คุณสังวร สุขสามัคคี อดีตเกษตรอำเภอดอยสะเก็ด
Contact: Akarasila Co.,Ltd.
305/44 M.4 Sansainoi Sansai Chiang Mai, Thailand 50210
Miss Monsinee Rutthummakul +668 4659 2461
ติดต่อ : บริษัท อัครศิลา จำกัด. 305/44 หมู่4 ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ 50210
มนต์สินี รัตน์ธรรมกุล โทร. 084- 6592461
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น